วันศุกร์ที่ ๑๑ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๕๑

การแผ่เมตตา

การแผ่เมตตา
การแผ่เมตตา เป็นการมอบความรัก ความปราถนาดี ความเอื้ออาทร ความอนุเคราะห์ การให้อย่างบริสุทธิ์ใจ แก่ผู้ที่เราปราถนาจะให้ ไม่ว่าจะเป็นคนหรือสัตว์หรือจิตวิญญานใดๆก็ตามทั้งที่มีความผูกพันธุ์กันมาตั้งแต่อดีตชาติ หรือในปัจจุบันชาติอันบุคคลเหล่านั้นเคยเป็นญาติมิตร เพื่อนสนิท ผู้มีบุญคุณ ผู้เคยร่วมบุญหรือผู้เคยผูกเวรก็ตาม รวมทั้งผู้ร่วมเกิดแก่เจ็บตายทั้งหลายในโลกนี้ทั้งหมดทั้งสิ้น ที่อาศัยอยู่ในโลกนอกโลกทั่วทั้งแสนหมื่นโกฏิจักรวาลทุกภพทุกภูมิ
การแผ่เมตตาให้ตนเอง เป็นการให้ความเมตตาต่อธาตุ ๔ ดิน น้ำ ลม ไฟ ในร่างกายของเราและจิตวิญญาณของตนเองให้หายร้อนรุ่มหายโรคภัยไข้เจ็บ ขจัดอุปสรรค กรรมเวร ของตนเองเพื่อจะได้พบกับความสงบสุขร่มเย็น มีความสำเร็จสมหวังในสิ่งต่างๆ ที่ตนตั้งใจไว้

บทแผ่เมตตาแก่ตนเอง
อะหัง สุขิโต โหมิ ขอให้ข้าพเจ้ามีความสุข
นิททุกโข โหมิ ปราศจากความทุกข์
อะเวโร โหมิ ปราศจากเวร
อัพยาปัชโฌ โหมิ ปราศจากอุปสรรคอันตรายทั้งปวง
อะนีโฆ โหมิ ปราศจากความทุกข์กายทุกข์ใจ
สุขี อัตตานัง ปะริหะรามิ มีความสุขกายสุขใจรักษาตนให้พ้นจากทุกข์ภัยทั้งสิ้นเถิด.

บทแผ่เมตตาให้สรรพสัตว์
สัพเพ สัตตา สัตว์ทั้งหลายที่เป็นเพื่อนทุกข์เกิด แก่ เจ็บตาย ด้วยกันทั้งหมดทั้งสิ้น
อะเวรา โหนตุ จงเป็นสุขเป็นสุขเถิด อย่าได้มีเวรแก่กันและกันเลย
อัพยาปัชฌา โหนตุ จงเป็นสุขเป็นสุขเถิด อย่าได้เบียดเบียนซึ่งกันและกันเลย
อะนีฆา โหนตุ จงเป็นสุขเป็นสุขเถิด อย่าได้มีความทุกข์กายทุกข์ใจเลย
สุขี อัตตานัง ปะริหะรันตุ จงมีความสุขกายสุขใจรักษาตนให้พ้นจากทุกข์ภัยทั้งปวงเถิดฯ.

กรวดน้ำให้เจ้ากรรมนายเวรข้าพเจ้าขออุทิศบุญกุศลจากการเจริญภาวนานี้ ให้แก่เจ้ากรรมนายเวรทั้งหลายของข้าพเจ้า ที่ข้าพเจ้าได้เคยล่วงเกินท่านไว้ ตั้งแต่อดีตชาติจนถึงปัจจุบันชาติ ท่านจะอยู่ภพใดหรือภูมิใดก็ตาม ขอให้ท่านได้รับผลบุญนี้แล้วโปรดอโหสิกรรมและอนุโมทนาบุญแก่ข้าพเจ้า ด้วยอำนาจแห่งบุญนี้ด้วยเทอญ.

ไม่มีความคิดเห็น: